สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกใหม่(Neoclassic)
สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกใหม่(Neoclassic) เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเคลื่อนไหวของการเกิดศิลปะแบบคลาสสิกใหม่ เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่18 ถึงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งเกิดขึ้นจากการต่อต้านทุกระบบที่เป็นการแบ่งชนชั้นในฝรั่งเศส ซึ่งสมัยนั้นนิยมศิลปะแบบร็อกโคโค และแบบบาร็อก ซึ่งมีลักษณะฟุ้งเฟ้อและมากมายด้วยลายละเอียดจนเกินไป ประกอบกับในขณะนั้นนักโบราณคดีได้ขุดค้นเมืองกรีกโบราณ เมืองปอมเปอี ได้พบศิลปะวัตถุล้ำค่า ในตอนต้นของยุคนี้จึงมีแนวคิดนำรูปแบบศิลปะโบราณกลับมาใช้ใหม่ ลักษณะงานสถาปัตยกรรมในยุคนี้จึงมีแนวคิดและการสร้างงานลอกเลียนแบบงานโบราณ ศิลปินยุคนี้จะกลับไปซาบซึ้งกับงานสมัยโรมัน และโดยเฉพาะศิลปะในรูปแบบอุดมคติของของกรีก รวมถึงได้รับอิทธิพลของหลักการและเหตุผลของยุคเรเนสซองช่วงศตวรรษที่ 16 ก่อนช่วงงานแบบบาร็อก
สถาปนิกในยุคคลาสสิกใหม่ ได้รับอิทธิพลจากงานภาพเขียนและโปรเจคของ Étienne-Louis Boullée และ Claude Nicolas Ledoux. ซึ่งงานสถาปัตยกรรมของ Boullee และลูกศิษย์จะแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันกับความความนิรันด์ของจักรวาล ส่วนงานของ Ledoux อาคารต้องสื่อสารการใช้งานของมันให้ผู้ที่เห็นได้รับรู้โดยทันที งานสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกใหม่มีความรุ่งเรืองมากในฝรั่งเศส เช่น ประตูชัยที่กรุงปารีส
เปรียบเทียบตัวอย่างงานในยุคคลาสสิกใหม่กับงานเก่าที่เป็นอิทธิพลทางความคิด
ประตูชัยฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Arc de triomphe de l'Étoile)(ค.ศ.1806) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ แบบของประตูชัยนั้น ฌอง ชาลแกร็งเป็นผู้ออกแบบ ในรูปแบบศิลปะคลาสสิคใหม่ ที่ได้ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ช่างแกะสลักที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในรูปแกะสลักของประตูชัยฝรั่งเศสด้วย
ประตูชัยไตตัส ( Arch of Titus ) ตั้งอยู่ใน Via Sacre เมืองทางตอนตะวันออกเฉียงใต้จากโรม ถูกสร้างขึ้นในปี 41ของจักรวรรดิโรมมัน เป็นงานสถาปัตยกรรมรูปแบบโรมัน
สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกใหม่(Neoclassic) เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเคลื่อนไหวของการเกิดศิลปะแบบคลาสสิกใหม่ เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่18 ถึงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งเกิดขึ้นจากการต่อต้านทุกระบบที่เป็นการแบ่งชนชั้นในฝรั่งเศส ซึ่งสมัยนั้นนิยมศิลปะแบบร็อกโคโค และแบบบาร็อก ซึ่งมีลักษณะฟุ้งเฟ้อและมากมายด้วยลายละเอียดจนเกินไป ประกอบกับในขณะนั้นนักโบราณคดีได้ขุดค้นเมืองกรีกโบราณ เมืองปอมเปอี ได้พบศิลปะวัตถุล้ำค่า ในตอนต้นของยุคนี้จึงมีแนวคิดนำรูปแบบศิลปะโบราณกลับมาใช้ใหม่ ลักษณะงานสถาปัตยกรรมในยุคนี้จึงมีแนวคิดและการสร้างงานลอกเลียนแบบงานโบราณ ศิลปินยุคนี้จะกลับไปซาบซึ้งกับงานสมัยโรมัน และโดยเฉพาะศิลปะในรูปแบบอุดมคติของของกรีก รวมถึงได้รับอิทธิพลของหลักการและเหตุผลของยุคเรเนสซองช่วงศตวรรษที่ 16 ก่อนช่วงงานแบบบาร็อก
สถาปนิกในยุคคลาสสิกใหม่ ได้รับอิทธิพลจากงานภาพเขียนและโปรเจคของ Étienne-Louis Boullée และ Claude Nicolas Ledoux. ซึ่งงานสถาปัตยกรรมของ Boullee และลูกศิษย์จะแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันกับความความนิรันด์ของจักรวาล ส่วนงานของ Ledoux อาคารต้องสื่อสารการใช้งานของมันให้ผู้ที่เห็นได้รับรู้โดยทันที งานสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกใหม่มีความรุ่งเรืองมากในฝรั่งเศส เช่น ประตูชัยที่กรุงปารีส
เปรียบเทียบตัวอย่างงานในยุคคลาสสิกใหม่กับงานเก่าที่เป็นอิทธิพลทางความคิด
ประตูชัยฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Arc de triomphe de l'Étoile)(ค.ศ.1806) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ แบบของประตูชัยนั้น ฌอง ชาลแกร็งเป็นผู้ออกแบบ ในรูปแบบศิลปะคลาสสิคใหม่ ที่ได้ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ช่างแกะสลักที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในรูปแกะสลักของประตูชัยฝรั่งเศสด้วย
ประตูชัยไตตัส ( Arch of Titus ) ตั้งอยู่ใน Via Sacre เมืองทางตอนตะวันออกเฉียงใต้จากโรม ถูกสร้างขึ้นในปี 41ของจักรวรรดิโรมมัน เป็นงานสถาปัตยกรรมรูปแบบโรมัน
หลังจากกระแสความนิยมของงานสถาปัตยกรรมแบบโมเดรินเริ่มสงบนิ่ง (ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จนถึง คริสต์ศตวรรษที่ 1980 ) สถาปัตยกรรมรูปแบบคลาสสิกใหม่ก็กลับมาเฟื้องฟูอีกครั้ง ในอเมริกา เริ่มมีแบบแผนและตำราเกิดขื้น
ส่วนงานสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกในไทยนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากยุโรปเนื่องจากการเสด็จประภาสยุโรปของรัชกาลที่ ๕ ซึ่งในช่วงนี้มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมหลายแห่งที่เลียนแบบสถาปัตยกรรมของยุโรปมา งานสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะแบบนีโอคลาสสิก เช่น พระที่นั่งอนันตสมาคม สถานีรถไฟหัวลำโพง ตึกแถวย่านท่าช้าง
1.พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระที่นั่งอนันต์ นั้นงดงามด้วยศิลปะแบบอิตาเลียนเรเนอซองส์ ผสมกับศิลปะแบบนีโอคลาสสิค โดยรูปทรงของพระที่นั่งอนันตสมาคมนี้เป็นแบบเดียวกับวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งโรม และโบสถ์เซนต์ปอล กรุงลอนดอน ช่วงบนของอาคารซึ่งเป็นรูปโดมซึ่งทำจากทองแดง มีโดมใหญ่อยู่ตรงกลาง และโดมเล็กๆ อยู่รายรอบอีก 6 โดม ตัวอาคารสร้างจากหินอ่อนสีขาวริ้วลายสีน้ำตาลแก่แกมหม่น สั่งเข้ามาจากเมืองคาร์รารา ประเทศอิตาลี อีกทั้งภายในยังงดงามไปด้วยภาพเขียนแบบเฟรสโก (ภาพเขียนสีบนปูนเปียก) บนเพดานโดม โดยฝีมือของจิตรกรชาวอิตาเลียน คือนายซี. รีโกลี และศาสตราจารย์กาลิเลโอ กินี โดยรูปเหล่านั้นจะเป็นรูปที่แสดงถึงเหตุการณ์เด่นๆ ในแต่ละรัชกาล ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-6
2.สถานีรถไฟกรุงเทพ(สถานีรถไฟหัวลำโพง
สถานีรถไฟกรุงเทพฯ(หัวลำโพง)เป็นอาคารที่สร้างจากรูปแบบสถานีรถไฟในทวีปยุโรป ตามอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ลักษณะอาคารใช้หลังคาเป็นโครงเหล็กรูปโค้งเกือบครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ห้องโถงใหญ่ทั้งหมด บริเวณส่วนกลางเป็นโค้งมุงด้วยวัสดุใสเพื่อให้เกิดแสงสว่างทั่วทั้งห้อง เน้นทางเข้าด้วยโถงยาวเท่าความกว้างของโครง หลังคาห้องโถงนี้ทำเป็นหลังคาแบน มีลูกกรงคอนกรีตโดยรอบ รองรับด้วยเสา 2 ต้นคู่ ตลอดระยะมีการประดับตกแต่งหัวเสาด้วยบัวหัวเสาแบบไอโอนิค ตามแบบคลาสสิค ตั้งอยู่เป็นระยะๆไป และมีห้องลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมอยู่ปลายสุดของโค้ง เพื่อหยุดความกว้างของโค้งอาคาร
3.ตึกแถวย่านท่าช้าง
ตึกแถวย่านท่าช้าง ที่เป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่สร้างสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ด้านหน้าอาคารชั้นบนทำเป็นระเบียง 3 ระเบียง ระเบียงกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น ผนังอาคารเซาะร่องเป็นแนว ชั้นล่างแต่งด้วยเสาดอริกและเสาแบบโครินเธียนในชั้นสอง ปัจจุบัน ธนาคารนครหลวงก็ได้เช่าอาคารแห่งนี้เปิดเป็นที่ทำการ
นอกจากนั้นตึกแถวในสมัยรัชกาลที่ 5 ในกรุงเทพฯนั้นก็ยังมีอยู่เช่น ตึกแถวริมถนนอัษฎางค์และย่านหลังกระทรวง ตึกแถวถนนตะนาว ช่วงก่อนถึงวัดบวรนิเวศฯ ก็คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเช่นกัน